การเตรียมตัวสร้างร้านบนอินเตอร์เน็ท
กำหนดสินค้าที่จะขาย
เริ่มแรกเราต้องรู้สินค้าที่จะขาย และวางรูปแบบธุรกิจซึ่งแบ่งคร่าวๆเป็น
4 ลักษณะคือ
- B-to-B (Business to Business) เป็นการค้าระหว่างองค์กร
หรือบริษัท (ปริมาณขายต่อครั้งจะมาก)
- B-to-C (Business to Consumer) เป็นการค้าจากองค์กร สู่ลูกค้าบุคคล
(ค้าส่งขนาดย่อม ประมาณพอประมาณ)
- B-to-G (Consumer to Government) เป็นการค้าจากองค์กร สู่ภาครัฐ
(การค้าที่อาศัยการประกวดราคา และกฎหมายมาเกี่ยวข้อง)
- C-to-C (Consumer to Consumer) เป็นการค้าระหว่างบุคคล
ถึง บุคคล (ค้าปลีก ปกติปริมาณขายจะน้อย)
สินค้าที่คุณเลือก ควรจะเป็นสินค้าที่คุณรู้จักดี และมีความชำนาญ
รู้จักกลไกแต่ละตัวในรูปแบบธุรกิจที่คุณเลือก
วางแผนการตลาด
เมื่อมีสินค้าแล้ว คุณจะวางแผนการตลาดบนอินเตอร์เน็ท ซึ่งมีความแตกต่างจากการตลาดทั่วไป
สิ่งสำคัญในการค้าบนอินเตอร์เน็ทคือ ความไว้วางใจ การรู้ว่าคุณมีตัวตนจริง
ความไว้วางใจอาจจะเกิดได้จาก
- การมีข้อมูลบริษัทของคุณซึ่งมักจะอยู่ในหน้า company profile ซึ่งลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทนั้นๆ
มีตัวตนหรือไม่
- รายละเอียดสินค้า เนื่องจากสินค้าบนอินเตอร์เน็ทจับต้องไม่ได้
จึงต้องมีข้อมูลที่จำเป็นให้มากที่สุด
- ความปลอดภัย ควรแจ้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้ระบบ
- ส่งสินค้าให้ทันเวลา เมื่อใดคุณมีรายการสั่งซื้อแล้ว ก็ต้องส่งสิค้าให้ทันเวลา
จึงต้องวางแผนการส่งสินค้าให้ดี
- การประชาสัมพันธ์ ที่คุณต้องรู้กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เป็นผู้ใช้อินเตอร์เน็ทป็นประจำ
หรือบริษัทคู่ค้า ที่จะมาหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพิ่ม กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
นำไปสู่การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน
จดชื่อโดเมน
คือการเลือกทำเลบนโลกอินเตอร์เน็ต ลูกค้าจะต้องพิมพ์โดเมนเนมเนมของคุณ
หรือคลิ๊กที่ link บนเว็บไซต์อื่นเข้ามา ดังนั้นทำเลที่ดีคือชื่อที่จำง่าย
cdnow.com หรือบางครั้งอาจไม่มีความหมายเลย เช่น yahoo.com ชื่อไม่ควรยาวเกินไป
และบ่งบอกเกี่ยวกับบริษัทของคุณได้ดี
ออกแบบหน้าร้าน และระบบซื้อขาย (shopping
cart)
การออกแบบหน้าร้าน พื้นฐานคือใช้งานได้ง่าย ไม่สับสน ไม่ทำให้ลูกค้าหลงทาง
เข้าใจง่าย และสวยงาม คุณอาจสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจด้วย Flash หรือ
Javascript หรือจุดเด่นอื่นๆ เพื่อให้เขาจำเว็บไซต์ของคุณได้ การออกแบบเว็บไซต์จึงจะต้องเหมาะสมกับสินค้า
รูปแบบธุรกิจ และกลุ่มเป้าหมาย ส่วนระบบซื้อขายหรือตระกร้าสินค้า (Shopping
Cart) จะมีกระบวนการง่ายๆดังต่อไปนี้
- ลูกค้าเลือกสินค้าลงตระกร้าโดยคลิ๊กที่ "Add To Cart"
- เมื่อเลือกเสร็จจึงกด check out เพื่อคำนวนราคาสินค้า โดยจะนำราคาสินค้ามารวมกันโดยอัตโนมัต
- ลูกค้าจะต้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวลูกค้า และสถานที่ขนส่ง
ระบบจะคำนวนพัสดุและค่าขนส่ง
- ลูกค้าจะทำการกรอกหมายเลขบัตรเครดิต ซึ่งจะถูกปกป้องด้วยระบบรักษาความปลอดภัย
SSL (ในกรณีที่ใช้ระบบสั่งซื้อจะไม่มีขั้นตอนนี้ แต่จะส่งใบสั่งซื้อไปที่
อีเมล์ของลูกค้า และร้านค้า พร้อมทั้งระบบจะทำการบันทึกการสั่งซื้อครั้งนี้)
- เมื่อธนาคารอนุมัติบัตรเครดิต ก็จะทำการตัดบัญชี ระบบจะส่งใบสั่งซื้อไปที่
อีเมล์ของลูกค้า และร้านค้า พร้อมทั้งทำการบันทึกการสั่งซื้อ
เป็นอันจบกระบวนการ
ติดต่อธนาคารเกี่ยวกับระบบชำระเงิน
ธนาคารที่รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตนั้นในประเทศไทยมี 4 แห่ง
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารเอเซีย
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคาร Standart Chartered
ร้านค้าต้องทำการขอใช้บริการกับธนาคารเหล่านี้ที่ใดที่หนึ่ง
วางระบบการขนส่งสินค้า
การวางแผนที่ดีไปสู่การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปร้านค้าไม่จำเป็นต้องขนส่งเองยกเว้นในเขตที่ร้านค้าอยู่
หรือ มีสาขาครอบคลุม อันเนื่องมาจากอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก
การจะส่งสินค้าทั่วโลกนั้น เราสามารถใช้บริการของบริษัทขนส่ง ที่ได้รับความนิยมคือ
FedEx DHL EMS UPS และอื่นๆ ซึ่งจะต้องศึกษาการใช้บริการต่างๆ ซึ่งบริษัทมีแตกต่างกัน
อันได้แก่
- บริการรับสินค้าจากบริษัท
- บริการคิดค่าชำระเงิน ผ่านอินเตอร์เน็ต
- ระบบตรวจสอบการเดินทางของสินค้า
- บริการขนส่งในปริมาณมาก
- ระบบรับการสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต
- รวมไปถึงราคาที่ขนส่ง
นำร้านค้าที่สมบูรณ์วางบน Hosting
เมื่อระบบต่างเสร็จสมบูรณ์ก็นำขึ้นไปบนโฮสติ้งเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเยี่ยมชม
และสั่งซื้อไป (ร้านค้าจะไม่สามารถแสดงินค้า และทำการสั่งซื้อได้ ถ้ายังไม่อยู่บนโฮสติ้ง)
ประชาสัมพันธ์ร้านค้า
การโฆษณาร้านของเรานั้น ควรจะเป็นไปตามแผนการตลาดโดยจะแบ่งออกเป็น
2 แบบ คือ
- Online การประชาสัมพัธ์ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต เช่น แบนเนอร์
การลงทะเบียนใน Search Engine
การใช้ Mailling List เป็นต้น
- Offline การประชาสัมพันธ์นอกอินเตอร์เน็ต เช่น โปสเตอร์
ป้ายโฆษณา หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ ฯลฯ
การประชาสัมพันธ์ทำให้คนรู้จักร้านเรามากขึ้น และสามารถเพิ่มการสั่งซ้อให้มากขึ้นตามไปด้วย
|
